แกรนด์ แคนยอน




แกรนด์ แคนยอน
10 อันดับ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุดในโลก

“แกรนด์ แคนยอน” (Grand Canyon) ตั้งอยู่ในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ความน่าอัศจรรย์ของแกรนด์แคนยอนอยู่ที่ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ โดยถือกำเนิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ 
“แกรนด์แคนยอน” ดินแดนอภิมหาอัศจรรย์!!
ทดสอบความกล้าท้าความเสียวกับ “สกายวอล์ก” ทางเดินกระจกรูปเกือกม้า
        การจะรู้ถึงแหล่งกำเนิดของ “แกรนด์แคนยอน” คงต้องขอย้อนอดีตกลับไปนานอักโขในช่วงหลายร้อยล้านปีที่ผ่านมา สายน้ำโคโลราโด (Colorado) ที่มีสภาพเป็นเพียงลำธารเล็กๆได้ไหลคดเคี้ยวตามที่ราบกว้าง ใหญ่ที่อยู่ระดับเดียวกับน้ำทะเล ต่อมาพื้นโลกเริ่มยกตัวสูงขึ้นเนื่องมาจากแรงดันและความร้อนอันมหาศาล ภายใต้พื้นโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปและกลายเป็นแนวหน้าผากว้างใหญ่
       
       ซึ่งการยกตัวของแผ่นดินทำให้ทางที่ลำธารไหลผ่านลาดชันขึ้นและทำให้น้ำไหลแรงมากขึ้น พัดเอาทรายและตะกอนไปตามน้ำเกิดการกัดเซาะลึกลงไปทีละน้อยๆในเปลือกโลก การสึกกร่อนพังทลายของหิน บวกกับแรงลมและแสงแดดได้ดำเนินมานานหลายล้านปี จนเกิดเป็น “แกรนด์แคนยอน” ภูมิประเทศอันน่าพิศวงนี่เอง 
“แกรนด์แคนยอน” ดินแดนอภิมหาอัศจรรย์!!
ล่องเรือแม่น้ำโคโลราโดชมวิวแกรนด์แคนยอน
        สำหรับใครที่ได้มาเยือนยัง “แกรนด์แคนยอน” ดินแดนที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกแห่งนี้ จะต้องตะลึงกับความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่รังสรรค์หุบผ่าสูงชันแห่งนี้ได้อย่างสง่างามน่าเกรงขามเป็นที่ยิ่ง แต่ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะได้มาเยือนที่แห่งนี้ ในอดีตแกรนด์แคนยอน เคยเป็นผืนแผ่นดินของชาวอินเดียนแดง
       
       ครั้งแรกสุดที่มีการค้นพบดินแดนแห่งนี้คือเมื่อปี พ.ศ.2083 โดยนักสำรวจชาวสเปน แต่ไม่เป็นที่สนใจเท่าไรนัก ต่อมาในปี พ.ศ.2319 นักบวชชาวสเปน 2 คนได้สำรวจเจอแล้วเผยแพร่ข่าวนี้ออกไป ทำให้มียักสำรวจเดินทางมายังดินแดนแห่งนี้มากขึ้น 
“แกรนด์แคนยอน” ดินแดนอภิมหาอัศจรรย์!!
สิ่งปลูกสร้างแฝงตัวอย่างกลมกลืนกับผาหินขนาดยักษ์
        หุบผาอายุราว 17 ล้านปี แห่งนี้ ประกอบไปด้วยหินเป็นชั้นๆ ซึ่งเป็นลักษณะชั้นของหินที่ถูกแม่น้ำตัดผ่าน มีอยู่ประมาณ 12 ชั้น โดยชั้นล่างสุดเป็นชั้นที่เก่าแก่ที่สุด ส่วนชั้นบนสุด เป็นชั้นที่ใหม่ที่สุด ต่างก็มีหินมากมายหลายชนิดและมาจากหลากหลายยุค
       
       ในแต่ละชั้นก็มีสีสันแตกต่างกันไป สีที่เห็นออกไปทางส้ม แดง เหลือง แซมด้วยสีน้ำตาล และดำ อันเป็นลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของ แกรนด์แคนยอน ยิ่งในยามกระทบแสงแดด บางบริเวณก็จะแลเห็นเป็นสีน้ำเงินอ่อน สี่ม่วง สีแดง สีเขียว สีส้ม แล้วแต่จังหวะของแสง 
“แกรนด์แคนยอน” ดินแดนอภิมหาอัศจรรย์!!
แกรนด์แคนยอนจะเปลี่ยนบรรยากาศไปตามฤดูกาลและสภาพอากาศ
        ส่วน แกรนด์แคนยอนทางฝั่งใต้ ที่เรียกว่า “South Rim” สูงประมาณ 2,000 เมตร ทางฝั่งนี้จะเปิดรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี และสามารถเดินทางได้สะดวกจากลาสเวกัส มลรัฐเนวาด้า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงชมแกรนด์แคนยอนจากฝั่งใต้มากกว่า สำหรับวิวทิวทัศน์ทางฝั่งนี้ เบื้องล่างจะเห็นแม่น้ำโคโลราโด ส่วนด้านบนสร้างเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ตามแบบของพวกชนพื้นเมืองเดิมที่เคยอาศัยอยู่ในบริเวณนี้มาก่อน
       
       หากใครที่ต้องการสัมผัสความเสียวถึงขั้วหัวใจล่ะก็ ขอให้ลองจ่ายเงินเพื่อพิสูจน์วัดใจตัวเอง ด้วยการเดินบน “สกายวอล์ก” (Skywalk) ทางเดินกระจกรูปร่างคล้ายเกือกม้ายื่นออกมาจากขอบผาไปประมาณ 21 เมตร เสมือนการเดินบนอากาศด้วยระดับความสูงกว่า 1,220 เมตร เลยทีเดียว ซึ่งนอกจากความหวาดเสียวแล้วยังจะได้ชมทัศนียภาพของแกรนด์แคนยอนแบบไม่เหมือนใครอีกด้วย 
“แกรนด์แคนยอน” ดินแดนอภิมหาอัศจรรย์!!
 หรือใครชอบทางน้ำ ก็สามารถล่องแก่งด้วยเรือยางไปตามแม่น้ำโคโลราโดที่ถือว่าเป็นแก่งที่ยากที่สุดในโลก ด้วยระยะทางยาวกว่า 400 กิโลเมตร น้ำที่ไหลเชี่ยวผ่านเกาะแก่งหินมากกว่า 150 แห่ง และน้ำวนที่เดือดพล่านอยู่เป็นแห่งๆ ท้าทายฝีมือของผู้รักสนุก พร้อมชมความสวยงามระหว่างเส้นทางสองฟากฝั่ง และยังได้พักค้างคืนท่ามกลางหุบเขาสูงโอบล้อมอีกด้วย ช่างคุ้มค่ากับชีวิตจริงๆ
       

ความคิดเห็น